การเป็นคู่ปรับของโลกฟุตบอลเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ คู่ปรับในวงการฟุตบอลจะทำให้การแข่งขันเกมนั้นสนุกขึ้นไปอีกนับ 10 เท่าทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นการเป็นคู่ปรับทางด้านฟุตบอลยังมีเรื่องของประวัติศาสตร์ การเมือง(นอกสนาม) เป็นอะไรที่มันนอกเหนือจากฟุตบอลไปอีก หนึ่งในคู่ปรับที่แฟนบอลรอคอยดูมากที่สุดก็คือ บาร์เซโลน่า กับ รีล มาดริด

บาร์เซโลน่า กับ รีล มาดริด

การเจอกันของทีมคู่ปรับไม่ว่าจะเป็นคู่ไหนก็ตาม ต่างจะมีฉายาของการเจอกันครั้งนั้นด้วย หากเป็นการเจอกันของทีมในเมืองเดียวกันจะขึ้นด้วยคำว่า ดาร์บี้แมตช์ตามด้วยชื่อเมือง อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จะเรียกว่า ดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ เป็นต้น แต่ บาร์เซโลน่า กับ รีล มาดริด อยู่กันคนละเมือง พวกเค้าเลยใช้ภาษาสเปนเรียกเกมนี้ว่า เอล กลาชิโก้

ตัวแทนการต่อสู้ของสงคราม

สิ่งที่ทำให้เกมเอล กลาชิโก้ แตกต่างจากเกมคู่ปรับอื่นๆก็คือ การต่อสู้กันครั้งนี้มันไม่ใช่เรื่องของฟุตบอลอย่างเดียว มันมีเรื่องของประวัติศาสตร์ทางด้านการเมืองผสมอยู่ด้วย เอาง่ายๆเลย บาร์เซโลน่า อยู่แคว้นคาตาลัน ส่วน รีล มาดริด อยู่ที่เมืองมาดริด เป็นตัวแทนของประเทศสเปน ความขัดแย้งที่แคว้นคาตาลันคิดว่าตัวเองไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของสเปน การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อต่อต้าน ก็ต้องใช้ฟุตบอลนี่แหละเป็นสื่อกลาง พวกเค้าเชื่อว่า หากชนะเกมเอล กลาชิโก้ พวกเค้าก็สามารถตบหน้า รีลมาดริดได้ด้วย

ใส่เต็มที่ จนถึงนักเตะ

จากข้อขัดแย้งดังกล่าวได้ถูกถ่ายทอดต่อลงมายังนักเตะด้วย ความคิดขัดแย้งดังกล่าว ทำให้การลงสนามแต่ละครั้งของเกมเอล กลาชิโก้ นักเตะใส่เต็มตีนตลอด ชัยชนะในครั้งนี้มันจึงมีคุณค่ามากกว่า 3 คะแนน เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของนักเตะทุกคน และ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของสโมสรตั้งแต่ผู้บริหารทีมยันเด็กเก็บบอล ไม่เท่านั้น มันยังลามไปถึงประชากรทุกคนในเมืองนั้นด้วย นั่นทำให้เกมเอลกาชิโก้ จึงถูกโหมกระพือทุกครั้งไม่ว่าจะเตะที่ไหนเวลาใดก็ตาม